เตือนสติได้ดีมาก ชี้นิ้วว่า “คนอื่น” นิ้วที่เหลือก็เข้าหา “ตัวเอง” อยากให้ทุกคนได้อ่าน…
หลายคนเอาแต่ชี้นิ้ว ด่ าคนอื่นว่า… “ฉันไม่ผิด เธอนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้” ทำไมไม่มองดูให้ดีว่า ในขณะที่ชี้หน้าโ ท ษคนอื่น นิ้วที่เหลือ มันกำลังบอกว่า… “เออ ที่จริงฉันนั่นแหละที่ทำให้กฉันเป็นแบบนี้”
ก้มดูตัวเองสิ ที่ผ่านมาโ ท ษใครไว้บ้าง? จ้องตาตัวเองสิ? จะโ ท ษใครอีกดีล่ะ?
โ ท ษเจ้านาย โท ษที่ทำงาน โ ท ษครอบครัว โ ท ษประเทศชาติ โ ท ษดวงชะตา โ ท ษนั่นโ ท ษนี่
อยากสำเร็จ อยาก “ร่ำรวย”อยากสุขภาพดี อยากมี “ความสุข”“เราต้องเลิกโ ท ษคนอื่น…”
จะว่ากล่าว ใครเขา เราดีไหม?
สอนสั่งใคร ดูตัว ให้ทั่วก่อน ใครเขาจะ ว่าได้ ให้สังวรณ์ เขาตะย้อน ยอกเอา ให้เราอาย
สอนตัวเอง ให้ได้ ใครจึงเชื่อ ตัวยังเบื่อ บ่นตัว มั่วเหลือหลาย เราต้องเริ่ม เราก่อน จีงผ่อนคลาย ก่อนจะไป สอนเขา เราต้องดี…
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเราเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง ขอให้มั่นใจได้เลยว่าเราต้องเคยทำอะไรบางอย่างไว้
เราถึงมาถึงจุดนี้ที่เราไม่ชอบใจ และเราจะต้องเป็นคนแก้มันด้วยตัวเอง ไม่ใช่มัวไปโ ท ษคนอื่น เลิกโ ท ษคนอื่น
คือ “ก้าวแรกแห่งความสำเร็จ” ในทุกด้านของชีวิต ผมสาบานว่านี่คือเรื่องจริง ถ้าไปลองทำแล้วไม่จริง ชีวิตไม่ดีขึ้น “คุณมาโ ท ษผมได้เลย”
คนที่ชี้นิ้วว่า “คนอื่น” ไปหนึ่งนิ้ว อีก 3 นิ้วจะชี้เขาหา “ตัวเอง” อ ย่ ามัวแต่คอยจับผิ ดตำหนิแต่คนอื่น
จงกลับมาดูที่ตัวเองว่าดีพอที่จะไปสั่งสอนคนอื่นหรือไม่ เพราะจะเข้าทำนอง “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
เอาเวลาที่จะคอยจับผิดตำหนิคนอื่นมาพิจารณาตัวเองว่ามีข้อบกพร่อง หรือยังมีอะไรที่ไม่ดี ที่ควรปรับปรุงดีกว่า แล้วชีวิตจะดีขึ้น…
ขอขอบคุณ : carebest2555 , oknation.nationtv
