อยู่ให้ลูกหลาน “เคารพรัก” มิใช่อยู่ให้ลูกหลาน “ไม่มีอยากเข้าใกล้”
แก่คุณภาพ… เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักปล่อยวาง เรื่องราวบางอย่ า ง ที่ควรวาง
ต้องรู้จักปล่อย เพราะใจของคนเรา แบกรับได้จำกัด อ ย่ าเอาแต่คับแ ค้ นฝังใจ
เมื่อใดที่ปล่อยวาง เมื่อนั้นย่อมเป็นอิสระ ปล่อยวางตำแหน่งฐานะที่เคยดำรง
ปล่อยวางชื่อเสียงสักการะที่เคยครอบครอง ปล่อยวางอดีต เรียนรู้ในการใช้ชีวิต
ในปัจจุบัน เป็นสุขได้ใน “วัยชรา”
เมื่ออายุมากขึ้น… ต้องรู้จักตัดใจ ของบางอย่าง
เมื่อสูญห า ยไปแล้วก็อ ย่ าได้ยึดผูก
คิดให้ได้ว่าเดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นของคุณ
และจงเชื่อเถิดว่าหากเป็นของคุณ
มันย่อมไม่มีทางสูญหาย ดังคำกล่าว
ที่ว่า หากเอาแต่ร่ำ ไ ห้ที่เสีย
พระอาทิตย์และพระจันทร์ไป
สักวันคุณจะเสียดวงดาวไปอีกอย่างหนึ่ง
ดังนั้น ตัดใจได้ในสิ่งที่สูญเ สี ยไปแล้ว
จึงสามาถรักษาสิ่งที่ควรมีอยู่ไว้ได้
เมื่ออายุมากขึ้น… ต้องรู้จักวางมือ
คุณไม่มีทางทำแทนลูกหลาน
ไปตลอดชีวิต ดังนั้นต้องรู้จักวางมือ
ลูกหลานมีบุญวาสนาและทางเดิน
ของลูกหลาน หากคิดแทนทำแทน
ไป เสี ยหมด คุณเหนื่อยตลอดชาติ
แถมทำ ร้ า ยลูกหลานไปตลอดชีวิต
วันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิต
อยู่ต่อยังไงการรู้จักวางมือคือการ
ฝึกเชื่อใจในลูกหลานและเป็นการ
ส่งเสริมลูกหลานไปในตัวอ ย่ าให้เขา
ด่าว่าเก่งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่ลูกหลานไม่เอาไหน
เมื่ออายุมากขึ้น… ต้องรู้จักวางอารมณ์
สังคมในอดีตมีความ ย า ก
ของค นในอดีตสังคมในปัจจุบัน
มีความยากของคนในปัจจุบัน
อ ย่ าเอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง
ไม่พอใจอะไรก็ด่าว่าลูกหลาน
ด่ า ลูกหลานด้วยอารมณ์ครั้งหนึ่ง
คุณธรรมของตนห า ยไปครั้งหนึ่ง
วาสนาของลูกหลานหายไปส่วนหนึ่ง
เพราะพ่อแม่คือพระพรหมของลูก
หากพ่อแม่เอาแต่แช่งด่า
ลูกหลานจะเจริญได้อย่างไร
เมื่ออายุมากขึ้น… เปรียบไปดั่งไม้ใกล้ฝั่ง
ตัณหาต้องลดลง ความโล ภ
ความโก ร ธ ความหลงต้องลดลง
คุณธรรมความสุขุมต้องมากขึ้น
ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ต้องมากขึ้น หมั่นเตือนตัวเองนะ
อยู่ให้ลูกหลานเคารพรักมิใช่อยู่ให้ลูกหลาน
หวาดกลัว จนไม่มีใครยอมเข้าใกล้
จงแก่อ ย่ างมีคุณภาพ อ ย่ าแก่เพียงเพราะอยู่นาน
ขอขอบคุณ : Cr. fwd Line