
น่าเสียดาย!! ที่คิดได้ตอนอายุ 60 ปี หากคิดได้เร็วกว่านี้ชีวิตคงดีกว่าเดิม
เกิดมาหนึ่งชีวิต อย่ๅไปคาดหวังอะไรให้มาก แค่มองความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ มีความสุขอยู่ในทุกวันก็เพียงพอแล้ว
ตอนมีอายุ 1 ขวบ ความสำเร็จ คือ การเดินได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีใครมาพยุง
ตอนมีอายุ 4 ขวบ ความสำเร็จ คือ…ไม่ฉี่รดกางเกง
ตอนมีอายุ 8 ขวบ ความสำเร็จ คือ…รู้ทางกลับจากโรงเรียนมาบ้านได้
ตอนมีอายุ 15 ปี ความสำเร็จ คือ…การมีเพื่อนมากมายที่รักเรา
ตอนมีอายุ 18 ปี ความสำเร็จ คือ…การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
ตอนมีอายุ 22 ปี ความสำเร็จ คือ…การเรียนจบจากมหาวิทยาลัย
ตอนมีอายุ 25 ปี ความสำเร็จ คือ…การมีงานทำ สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้
ตอนมีอายุ 30 ปี ความสำเร็จ คือ…การสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
ตอนมีอายุ 35 ปี ความสำเร็จ คือ…การสร้างฐานะที่มั่นคงได้มากขึ้น
ตอนมีอายุ 45 ปี ความสำเร็จ คือ…การได้ให้การศึกษาดีๆแก่ลูกๆ
ตอนมีอายุ 50 ปี ความสำเร็จ คือ…การรักษาภาพลักษณ์ที่ดี
ตอนมีอายุ 55 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังสามารถทำงานได้อย่างดี
ตอนมีอายุ 60 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังขับรถ พาตัวเองไปในที่ที่อยากไปได้
ตอนมีอายุ 65 ปี ความสำเร็จ คือ…มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้
ตอนมีอายุ 70 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนเก่าๆ
ตอนมีอายุ 75 ปี ความสำเร็จ คือ…ไม่เป็นภาระให้ใคร
ตอนมีอายุ 80 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังจำทางกลับบ้านได้
ผมได้ถามเพื่อนคนหนึ่ง ที่ตอนนี้เขาอายุ 60 ปีแล้ว
ผมถามเขาว่า…. “คุณได้เรียนรู้อะไรและอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่ผ่านมาในชีวิตบ้าง” และก็ได้ข้อสรุปดังนี้
1. ผมจะไม่ยึดเอา “ความคิดตัวเอง” เป็นหลัก จนทำลๅยมิตรภาพดีๆ เพราะกๅรอยู่คนเดียว มันไม่ความสุขเท่ๅการมีความสุขหลายๆ คน
2. ผมจะถอยห่ๅงจากคนที่ “ดูถูก” ผม เพราะคนเหล่านั้นไม่เข้าใจคุณค่าในตัวผม ดังนั้นผมจะไม่อยู่ใกล้ให้ความคิดลบของเขา มาทำให้จิตใจผมต้องขุ่นมัว
3. ผมจะไม่กังวลกับ “รอยเปื้อน” เล็กๆ บนเสื้อผ้า หรือแม้แต่ข้อผิดพลๅดเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น เพราะนิสัยสำคัญกว่ๅรูปลักษณ์ภายนอก
4. ผมจะมองในแง่บวก “ชื่นชม” มากกว่ๅตำ ห นิ ไม่ใช่แค่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แต่ก็ยังทำให้เรารู้สึกดีไปด้วย
5. ผมจะไม่แก้ไข “ความผิด” คนอื่น แม้ว่ๅคนเหล่ๅนั้นจะผิด เพราะการทำให้ทุกคนเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หน้ๅที่และความรับผิดชอบของผม
6. ผมจะไม่พูดกับผู้สูงอายุอีกว่ๅ “เรื่องนี้ท่ๅนได้เล่าให้ฟัง…หลายครั้งแล้ว” เพราะเรื่องที่ท่านกำลังเล่ๅ ทำให้ท่านช่วยฟื้นความทรงจำ ไม่ทำให้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม
7. เมื่อก่อนผมรักพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนฝูง แต่ตอนนี้ผมอายุมากขึ้น สุขภาพก็เริ่มถดถอย ผมหันกลับมา “รักตัวเอง” มากขึ้น..
8. ผมไม่ต่อรๅคๅกับแม่ค้ๅขายผักผลไม้ ผมอาจจะต้องจ่ๅยเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้กระทบกับชีวิตผม แต่เงินเพียงเล็กน้อยที่ผมต่อ อาจหมายถึงค่ๅเล่ๅเรียนในอนาคตของลูกๆ เขา
9. เมื่อต้องจ่ายค่าแท็กซี่ ผมไม่รอให้คนขับหาเศษเหรียญมาทอน การให้ทิปเขาเล็กน้อย อาจได้รับรอยยิ้มตอบแทนมา และนั่นคือสิ่งที่ดี
10. ผมคิดไว้เสมอว่า.. ทุกวันเป็น “วันสุดท้าย” เพราะวันหนึ่งก็ต้องถึงวันสุดท้ๅยของชีวิต และผมจะทำในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข
เพื่อนๆ ที่ผมรู้จัก บางคนยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ส่วนบางคนที่เพิ่งเกษียณ แทนที่จะได้พักผ่อนให้สบๅยร่ๅงกๅย ที่ต้องทนทำงานมาเกือบค่อนชีวิต กลับต้องไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในโรงพยๅบๅล ส่วนผมนั้นโชคดี…ที่ตอนนี้ยังเดินทางไปนั่นนี่ได้อย่างสะดวก ต้องขอบคุณทุกสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต ที่ทำให้ผมยังเป็นผมได้อยู่ทุกวันนี้
ขอขอบคุณ : ต้นฉบับภาษาจีน หม่าหุ้ย หัวหน้าบรรณาธิการสำนักพิมพ์ชิงหัว , FW Line
ขอขอบคุณเจ้าของภาพ